เผยแพร่เมื่อ : พุธ 22 เมษายน 2563 โดย อภิญญา พูลทรัพย์ จำนวนผู้เข้าชม 13744 คน
อาจารย์และนักวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ล้านนา จ.เชียงใหม่ ผุดไอเดียสร้างเครื่องกดเจลแอลกอฮอล์แบบเหยียบเท้า ลดเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใช้อุปกรณ์หาง่ายราคาถูก ทำง่าย ใช้ง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก พร้อมแชร์ความรู้สู่ชุมชนร่วมฝ่าวิกฤตโรคระบาด
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ระบิน ปาลี อาจารย์สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา สาธิตการใช้งานเครื่องกดเจลแอลกอฮอล์แบบเหยียบเท้า ที่ร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยออกแบบและสร้างขึ้น จากแนวคิดที่ต้องการลดการสัมผัสของบุคคลกับขวดเจลแอลกอฮอล์สาธารณะ ทั้ง ตามหน่วยงานราชการ เอกชน และ ตามร้านค้าต่าง ๆ ที่อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้
ผศ.ระบิน อาจารย์ผู้ออกแบบ กล่าวว่า อุปกรณ์ชิ้นนี้ ใช้หลักการทำงานคือมีแกนเหล็ก ยึดกับแป้นเหยียบและปุ่มกด เมื่อใช้เท้าเหยียบที่แป้น แกนเหล็กจะทำหน้าที่แทนมือในการกดปุ่มขวดเจลเพื่อจ่ายเจลออกมา โดยที่มือของเราจะไม่สัมผัสกับขวดเจลเลย ซึ่งจะทำให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้นในชีวิตประจำวัน
อุปกรณ์ที่สร้างก็เป็นวัสดุหาง่าย เป็นเหล็กกล่อง สปริง แผ่นเหล็ก ที่หาซื้อได้ตามร่านจำหน่ายวัสดุทั่วไป ที่สำคัญคือมีราคาไม่แพง หากเทียบกับเครื่องที่ใช้ระบบเซ็นเซอร์ โดยทั้งชุดไม่กี่ร้อยบาท และ นอกจากต้นทุนต่ำ ยังสามารถเคลื่อนย้ายไปใช้งานตามสถานที่ที่ต้องการได้อย่างสะดวก ไม่ต้องเสียบปลั๊กไฟ
ผศ.ระบิน ปาลี อาจารย์ผู้ออกแบบ บอกว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา ได้ส่งมอบเครื่องนี้ให้กับเทศบาลตำบลเหมืองง่า จังหวัดลำพู ซึ่งเป็นผู้ที่ให้แนวคิดและโจทย์การใช้งาน ไปแล้ว 2 เครื่อง เพื่อนำไปให้บริการประชาชนผู้มาติดต่อราชการในเทศบาล และ อยู่ระหว่างการผลิตอีก 10 เครื่อง ตามความต้องการของเทศบาลตำบลเหมืองง่า ที่จะนำไปแจกจ่ายให้กับทุกชุมชนในตำบลนำไปใช้งานและกิจกรรมที่มีผู้คนรวมตัวกันจำนวนมาก
ส่วนหน่วยงานหรือประชาชนทั่วไปที่ต้องการสร้างอุปกรณ์ชิ้นนี้ไปใช้งาน สามารถสอบถามข้อมูลการผลิตได้ทุกขั้นตอนมาที่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา และ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้สู่ชุมชน ทางมหาวิทยาลัยยังเตรียมเปิดสอนทำผ่านระบบออนไลน์อีกด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3thailandnews.bectero.com/n... รายการ ข่าวนอกลู่ ออกอากาศ ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 20.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 19.50 น. ทางช่อง 33 HD
ขอบคุณการนำเสนอข่าวจากสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3
ออกแบบและพัฒนาโดย สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา