เผยแพร่เมื่อ : พฤหัสบดี 23 ตุลาคม 2568 โดย สกนธ์ เรืองฉาย จำนวนผู้เข้าชม 67 คน
วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม 2568 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พชร สายปาละ รองคณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร นำอาจารย์และบุคลากรคณะ เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา และพิธีสวนสนามอย่างยิ่งใหญ่เนื่องในวันปิยมหาราช ประจำปี 2568 ณ ลานอเนกประสงค์ของศูนย์การเรียนรู้นันทสิปปาคาร โดยมี นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยศาล ทหาร ตำรวจ และประชาชนเข้าร่วมพิธี เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงวางรากฐานความมั่นคงของชาติไทย
พิธีดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจสำคัญนานัปการ เพื่อความผาสุกของราษฎรและความมั่นคงของประเทศ ทั้งการเลิกทาส การปรับปรุงการปกครอง การบริหารราชการแผ่นดิน การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทำให้ประเทศไทยก้าวสู่ความเจริญรุ่งเรือง มั่นคง และเป็นที่ยอมรับในเวทีนานาชาติ
อีกทั้งยังทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันทรงคุณูปการแก่ประเทศชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้าน “การศึกษา” ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวสู่ความทันสมัย โดยทรงเล็งเห็นว่า “การศึกษา คือหัวใจของการพัฒนาประเทศ” พระองค์จึงทรงริเริ่มการปฏิรูปการศึกษาอย่างเป็นระบบ โดยมีพระราชกรณียกิจสำคัญ อาทิ
- จัดตั้ง กระทรวงธรรมการ (ซึ่งต่อมาคือกระทรวงศึกษาธิการ) เพื่อบริหารและกำกับดูแลการศึกษาทั่วประเทศ
- ก่อตั้ง โรงเรียนหลวงและโรงเรียนฝึกหัดครู แห่งแรก เพื่อพัฒนาครูและบุคลากรด้านการศึกษา
- ส่งเสริมให้มีการ ศึกษาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และภาษาต่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์
- พระราชทานทุนการศึกษาแก่ข้าราชการและเยาวชนไปศึกษาต่างประเทศ เพื่อกลับมาพัฒนาบ้านเมือง
พระราชกรณียกิจเหล่านี้ได้วางรากฐานให้เกิด “ระบบการศึกษาไทยสมัยใหม่” ที่มุ่งเน้นการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ และคุณภาพชีวิตของประชาชน สืบสานพระราชปณิธานในการสร้างคนดี คนเก่ง และคนมีคุณธรรม เพื่อพัฒนาชาติอย่างยั่งยืน
“วันปิยมหาราช” ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า “สมเด็จพระปิยมหาราช” หมายถึง “พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย” รัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวันสำคัญของชาติ เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ในโอกาสนี้ ผู้เข้าร่วมพิธีต่างร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ พร้อมตั้งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อสืบสานปณิธานแห่ง “พระปิยมหาราช” อันเป็นแบบอย่างของกษัตริย์นักปกครองผู้เปี่ยมด้วยพระเมตตาธรรม เพื่อความเจริญมั่นคงของชาติสืบไป
สำหรับพิธีเริ่มต้นด้วยการถวายพวงมาลาแด่พระบรมราชานุสาวรีย์ ก่อนเข้าสู่ช่วงสวนสนามโดยกองผสม จากทหาร ตำรวจ และ สมาชิกอาสารักษาดินแดน หรือ อส กว่า 300 นาย ซึ่งร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีและความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ผ่านภาพแห่งเกียรติยศที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของเมืองน่าน
พิธีสำคัญครั้งนี้ยังถือเป็นการเปิดตัว “ศูนย์การเรียนรู้นันทสิปปาคาร” แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดน่าน ที่มุ่งส่งเสริมการเรียนรู้ในทุกแขนง ทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์ เพื่อพัฒนาระบบคิดของเยาวชนและผู้เยี่ยมชมให้ก้าวทันโลกอย่างสร้างสรรค์
อาคารศูนย์การเรียนรู้ฯ ได้รับการออกแบบอย่างประณีต โดยผสมผสานความงดงามของ ศิลปะล้านนา และ ศิลปะบาโรก เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน สะท้อนเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเมืองน่านควบคู่ไปกับความสง่างามในระดับสากล
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบเพื่อความเท่าเทียม โดยเปิดพื้นที่ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ บุคคลทั่วไป หรือผู้พิการ พร้อมตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมด้วยแนวคิด “อาคารเขียว” ที่เน้นการอนุรักษ์พลังงานและลดผลกระทบต่อธรรมชาติ
ประชาชนสามารถเข้าชมศูนย์การเรียนรู้นันทสิปปาคารได้ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป ทุกวันอังคารถึงวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. หยุดทุกวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
(ภาพ/ข่าว : คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร , ประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน)
คลังรูปภาพ : 23 ต.ค. 68 วันปิยมหาราช ประจำปี 2568
ออกแบบและพัฒนาโดย สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา