โลโก้เว็บไซต์ มทร.ล้านนา ร่วมงานเทศกาลศิลปวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ครั้งที่ 1  | กองบริหารทรัพยากร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา น่าน

มทร.ล้านนา ร่วมงานเทศกาลศิลปวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ครั้งที่ 1

เผยแพร่เมื่อ : พุธ 4 ธันวาคม 2567 โดย อภิญญา พูลทรัพย์ จำนวนผู้เข้าชม 1 คน

ยังไม่มีคะแนนสำหรับบทความนี้ ผู้อ่านสามารถให้คะแนนบทความได้จากปุ่มข้างใต้

        วันที่ 3 ธันวาคม 2567 อาจารย์อัคค์สัจจา ดวงสุภาสิญจ์ รองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ พร้อมผู้ช่วยศาสตราจารย์ชัยปฐมพร ธนปวงวัน ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เข้าร่วมงาน เทศกาลศิลปวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ครั้งที่ 1  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมวิชาการระดับชาติ ศิลปวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น “คัมภีร์ใบลาน พับสา และเอกสารโบราณ: ทุนทางวัฒนธรรมสู่ Soft Power” และกิจกรรมในเทศกาลฟื้นคืนจิตวิญญาณเมืองเชียงใหม่ ปี 2567 โดยได้รับเกียรติจาก นายศิวะ  ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงาน  ณ วัดเชียงโฉม (เจดีย์ปล่อง) ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 

           เทศกาลศิลปวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ครั้งที่ 1 เป็นกิจกรรมหนึ่งของโครงการ การประชุมวิชาการระดับชาติ ศิลปวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น “คัมภีร์ใบลาน พับสา และเอกสารโบราณ: ทุนทางวัฒนธรรมสู่ Soft Power” และกิจกรรมในเทศกาลฟื้นคืนจิตวิญญาณเมืองเชียงใหม่ ปี 2567 จัดขึ้นเพื่อนำเสนอความก้าวหน้าในการบูรณาการองค์ความรู้ หรือภูมิปัญญาที่เกี่ยวข้องจากคัมภีร์ใบลาน พับสา และเอกสารโบราณ มาบูรณาการ ประยุกต์ใช้ สร้างสรรค์ และเผยแพร่ เพื่อการส่งเสริมอาชีพ การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และการสร้างเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นหรือชาติ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนา “ย่านช้างเผือก หัวเวียงเชียงใหม่” ”ซึ่งเป็นย่านสำคัญด้านหัวเวียงเชียงใหม่ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 700 ปี มีชุมชนโบราณที่สำคัญเช่น เวียงเชียงโฉม เวียงบัว อนุสาวรีย์ช้างเผือกข่วงสิงห์ และเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ พื้นที่เวียงบัว ซึ่งมีอายุกว่าหนึ่งศตวรรษ

          กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย นิทรรศการประวัติศาสตร์เชียงโฉม-เวียงบัว การสาธิตภูมิปัญญาพื้นบ้านของชุมชนในย่านช้างเผือก นิทรรศการผลงานสร้างสรรค์ และการแสดง แสง สี เสียง ภายใต้ชื่อ “ศาสตร์แสงศิลป์ ถิ่นเวียงบัว” เพื่อบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ ย่านช้างเผือก ย่านประวัติศาสตร์ที่ยังคงมีชีวิตของเมืองเชียงใหม่